ลายสัก ศิลปะบนร่างกาย ที่สวย เจ็บ และความทรงจำ Ep.3

ลายสัก ศิลปะบนร่างกาย ที่สวย เจ็บ และความทรงจำ Ep.3

ความเชื่อ สักยันต์ แทททู (Tattoo)
ศตวรรษที่ ๑๙ การสักเฟื่องฟูที่อังกฤษมากกว่าแห่งใดในยุโรป แพร่หลายทั้งในหมู่สามัญชนชนชั้นสูงขุนนาง ยกตัวอย่าง เลดี้แรนดอล์ฟ เชอร์ชิล แม่ของเซอร์วินสตัน เชอร์ชิล นายกรัฐมนตรีอังกฤษก็สักรูปงูพันไว้ที่แขนตั้งแต่ข้อศอกถึงข้อมือ

พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ ๗ พระมหากษัตริย์อังกฤษทรงสักรูป “กางเขนแบบเยรูซาเล็ม” (jerusalem cross) เป็นรูปกากบาทขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยกากบาทขนาดเล็กอีกสี่อัน ก็ยิ่งทำให้ผู้คนนิยมสักตาม มีบันทึกว่ายุคนั้นร้านสักที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ชื่อร้านแฮมแมน ตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน

ส่วนในแถบเอเชียบ้านเรา ชาวจีนและชนชาวเผ่าโบราณก็นิยมสักทั้งชายหญิงชาวไทใหญ่สักยันต์เพื่อความอยู่ยงคงกระพัน พวกลาวพุงดำนิยมสักยันต์ทั้งตัว ยกเว้นหน้าผากใช้สีดำบ้างแดงบ้าง เช่นเดียวกับชาวพม่าที่นิยมสักทั้งตัว ส่วนคนมอญ พม่าบ่างส่วนหรือเขมรนิยมสักรูปขอม เช่น

ราชสีห์ดำ ลายมอม ลายกระหนก คนไทยแถบภาศอีสานนิยมสักให้สวยงาม มีเสน่ห์ เรียกว่าการ “สักขาลาย” ขณะที่ใครไม่มีลายสักถือว่า ต่ำต้อย ถูกเรียกว่าพวก “ขาขาว”

อีกเหตุผลหลักในการสักของคนไทย คือความเชื่อเรื่องการประจุพลังอำนาจทางไสยศาสตร์ของอักขระกับรูปภาพไว้ในร่างกาย ซึ่งต้องสักโดยครูบาอาจารย์ที่มีวิชาอาคม ถ้าหวังผลทางเมตตามหานิยมให้ต้องตาต้องใจเพศตรงข้าม หรือหวังผลทางเจรจาค้าขาย มักสักรูปจิ้งจกนกสาลิกา โดยเฉพาะการสักเพื่อ
หวังผลทางอยู่ยงคงกระพันที่นิยมสักรูปเสือเผ่น หนุมาน ยันต์เกราะเพชร

ทำให้ต่อมาการสักถูกเหยียดว่าเป็นเรื่องของนักเลงหัวไม้ที่ชอบตีรันฟันแทงหรือชนชั้นล่าง ผู้ที่มีลายสักมักถูกมองอย่างหมิ่นๆ ว่าอาจเป็นคนคุก หรือพวกเล่นอาคมของขลังปัจจุบันโรงเรียนเตรียมทหารยังมีข้อกำหนดว่าผู้ที่สอบเข้าศึกษา ต้องไม่สักไม่เจาะใด ๆ ทั้งสิ้น

ถึงวันนี้ขณะที่ฝรั่งตะวันตกถือว่าการสักลายเป็นเรื่องศิลปะบนเรือนร่าง ที่ไม่เกี่ยวกับความชื่อใดๆ ส่วนคนไทย การสักยันต์เพื่อพลังอำนาจบางอย่างยังคงดำรงอยู่ใน “สายหนึ่ง” แต่การสักทางสายใหม่ที่เรียกว่า “แทททู”

ซึ่งเน้นความงามทางศิลปะก็เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นตามกระแสตะวันตกจากคนทุกชนชั้น ทุกระดับการศึกษา ไม่วชายหรือหญิง คนเหล่านี้ตัดสินใจแล้วว่าจะอยู่กับลายสักไปชั่วชีวิตจากเมื่อก่อนอุปกรณ์สักลายที่เป็นวัตถุปลายแหลมดูขรึมขลังเช่น เขี้ยวสัตว์หนามหวาย เข็มเย็บผ้ามัดรวมกันสี่ห้าเล่ม หมึกจีนชนิดแท่งฝนเป็นผง ผสมน้ำมันงา

บางสำนักอาจใช้ขี้เถ้ากระดูกสัตว์ กาบมะพร้าวเผา หรือแม้กระทั่งเขม่าก้นหม้อ ผสมดีควาย ทุกวันนี้เปลี่ยนเป็นเข็มสักสมัยใหม่ หรือปืนสักไฟฟ้า จับถนัดเหมือนปากกา แทททูอาร์ติสต์สักลาย กรีดเส้น วาดลายสักในทิศทางตามต้องการได้อย่างถนัดถนี่ หมึกมีใช้หลายเฉดสีวันนี้ลายสักกลายเป็นหนึ่งของความงามในชั้นเชิงศิลป์ ว่าด้วยวิชาออกแบบและแฟชั่น

#การสัก #Tattoo #sagamingสมัคร

loopoz

loopoz

Leave a Replay